ชาวอ.ปัก และ ชาวโคราช หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อร้านผ้าไหม "ฉัตรทองไหมไทย" กันมาบ้างโดยเฉพาะวัยรุ่นยุคก่อนที่นิยมสวมใส่ผ้าไหมจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะที่นี้ผลิตผ้าไหมมายาวนานตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อน จนปัจจุบันได้สืบทอดมาถึงรุ่นที่ 5
ตั้งแต่วันที่ย้ายร้านเดิมออกมาจากตลาดปักธงชัย จนถึงวันนี้ก็ผ่านมา20กว่าปีแล้วจนทำให้ร้านผ้าไหมแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งในภาพจำของชาวปักที่ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ยังคงเห็นร้านฉัตรทองไหมไทยตั้งอยู่ที่เดิมตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ในปี 2017 ได้มีการปรับเปลี่ยนหน้าร้านอีกครั้ง เดิมตั้งใจจะทำเป็นแกลเลอรี่ผ้าไหม ที่มีทั้งการโชว์ทอผ้า และ workshop ไปในตัวพร้อมมุมกาแฟเล็กๆไว้บริการลูกค้า แต่ก็ได้ล้มเลิกแผนเก่า ไปๆมาๆเป็นร้านกาแฟแบบ แกลเลอรี่ และ บิสโทรแทนซะงั้น ซึ่งตัวร้านนั้นยังคงตั้งอยู่ภายในร้านผ้าไหมเดิม ภายนอกไม่เปลี่ยนแปลงแต่ภายในนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว ใครเล่าจะรู้ได้? จริงไหมเล่าเธอ? อยากป่าวประกาศให้คนทั่วโลกรู้จริงๆว่า
"ตรงนี้มีร้านกาแฟอยู่นะจ๊ะทุกคนนนนนน"
แต่ กว่าจะเปิดร้านกาแฟอย่างเป็นทางการได้นั้นก็ยากเหลือเกิน เวลาผ่านมาหลายปี ประสบการณ์ก็เพิ่มมากขึ้น เพราะถึงจะไม่ได้ขายหน้าร้านเป็นประจำ เราแอบขายแบบเงียบๆให้ลูกค้าประจำ แต่ ในบางครั้งเราก็แอบออกไปขายตามงานอีเว้นท์บ้างนะอย่างเช่น งานผ้าไหมปีที่ผ่านมา หรือจะเป็นงานสภากาแฟตอนเช้าเราก็ไปได้
เมื่อผลตอบรับดีเกินคาด เราก็เริ่มวางแผนจัดการเรื่องต่างๆอีกครั้ง ปรับปรุงหน้าร้านภายในอีกรอบ (ครั้งนี้จัดการงานภายในหนักมากกกกก ตัวเปื้อนกลับบ้านทุกวัน) พอหมดช่วงโควิด เราก็พร้อมเปิดร้านกาแฟโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว ไม่มีการโฆษณาป่าวประกาศใดๆทั้งสิ้นยกเว้นแจ้งเพื่อนๆให้ได้รู้กันก็เท่านั้น (หวังน้อยเหลือเกิน)
ไม่นานร้านก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา คิดอยู่นานว่าจะตกแต่งเป็นแบบไหนดีถ้าตามสมัยนิยมที่วัยรุ่นเค้าชอบกันเราก็ไม่ถนัด เอาเป็นว่าแบบที่เราชอบเลยแล้วกัน แนวๆอินเดียนี่แหละถนัดนัก ผสมผ้าไหมเข้าไป บวกกับความบ้าที่อยู่ในตัวได้ออกมาเป็น สไตล์ MAXIMALISM ที่ยังไม่คุ้นตาคนไทยมากนัก เพราะถ้าเจ้าของร้านไม่บ้าจริงทำไม่ได้บอกไว้เลย
พอมาถึงเรื่องของเฟอร์นิเจอร์เรามีอยู่ก่อนแล้วไม่ได้ไปซื้อเพิ่ม แต่บางชิ้นมีการตกแต่งใหม่เพื่อความเยอะที่จำเป็นจะต้องสู้กับผนังให้ได้ แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถสู้ได้อยู่ดี เลยมีการตกแต่งใหม่ตลอดตั้งแต่เปิดร้านมา
ถึงผลออกมาเป็นแบบนี้ก็เถอะแต่ใครๆก็พูดกันว่าร้านแบบนี้ต้องใช้เวลาเพราะขึ้นชื่อว่า MAXIMAL ก็เท่ากับว่ามันคือ MORE N MORE ความมากกกกกกก ที่ไร้จุดสิ้นสุด เชื่อว่าการมาร้านกาแฟของเราครั้งแรก และ ครั้งต่อไปของคุณจะไม่เหมือนเดิมแน่นอน (มันต้องมีบางอย่างเปลี่ยนไปบ้างสิน่า)
เข้าเรื่องเมนูของร้านเราบ้างดีกว่า จะบอกว่ามี มันก็มี จะบอกว่ามันไม่มีมันก็ไม่มี เพราะเราสนับสนุนให้ลูกค้าคิดเมนูของคุณขึ้นมาเอง ถ้าคิดเองก็อร่อยเองง่ายจะตาย แต่พูดแบบนั้นก็ไม่ได้เพราะ "มันคิดไม่ออกไงว่าอยากกินอะไร "
เราเลยสรรสร้างเมนูแนะนำของร้านขึ้นมา ที่ทุกแก้วมีราคา 80 บาทเท่ากันหมด ซึ่งมีแต่เครื่องดื่มแปลกๆทั้งนั้น เดี๋ยวจะไม่เข้ากับร้านนนนน
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่สนใจและทอดทิ้งเครื่องดื่มยอดฮิทอย่าง ESPRESSO , AMERICANO , LATTE และ อื่นๆอีกมากมาย แต่ เราอยากให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง รสชาติที่แปลกใหม่ ในแบบเฉพาะตัว โดยการให้ลูกค้าทุกท่านได้สามารถสร้างสรรเมนูเครื่องดื่มด้วยตัวของคุณเอง "ถ้ามาทุกวันก็ดื่มวันละอย่างไปเลย"
ถึงหน้าตาจะเหมือนๆกัน แต่! ข้างในไม่เหมือนกันเลยสักแก้วเดียว เห็นแบบนี้ก็เริ่มถูกใจแล้วจริงมั้ยคะ เริ่มสนุกกันรึยังเอ่ย? แต่ความสนุกของเราไม่ได้มีแค่นี้นะคะ เพราะเค้กทีนี่ก็ถือว่าเด็ดมาแล้วไม่สั่งไม่ได้
"ทำไมหล่ะ"
"ก็ที่นี่ เรามีเค้กประจำร้านที่ได้ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจสายหวานที่ไม่หวานโดยเฉพาะ"
เนื้อเค้กทานง่ายอร่อย ไม่หนืดคอ และ ที่สำคัญมันไม่หวานเกินความจำเป็น เหมาะกับวันทุกวันของทุกคน (ยกเว้นผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะเค้กก็คือเค้กค่ะ ถึงไม่หวานก็ยังทำให้น้ำหนักลงยากอยู่นะคะ) นอกจากนี้ทางร้านก็มีของหวานหลายอย่างให้เลือกและสลับสับเปลี่ยนกันมาวางหน้าร้านตลอด
เป็นยังไงกันบ้าง อ่านมาถึงตรงนี้เริ่มนึกอยาก... ขึ้นมาสักนิดรึยังคะ ถ้าไม่อยากพลาดของอร่อยก็รีบเลยค่ะ เพราะส่วนผสมบางไม่ได้มีขายตลอดนะคะทุกคน
วันนี้ขอลาไปก่อนครั้งหน้าจะกลับมาใหม่พร้อมอัพเดตเรื่องราวของเราอีกครั้งค่ะ
Comments